5 หุ้นมีแววกำไรนิวไฮ ในช่วงเศรษฐกิจขาลง

5 หุ้นมีแววกำไรนิวไฮ ในช่วงเศรษฐกิจขาลง “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” สำรวจหุ้นที่ผู้บริหารและนักวิเคราะห์ประเมินกำไรปีนี้ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจขาลงและการระบาดโควิด-19 พบกับ 5 บริษัทเข้าเป้า กลุ่มโรงไฟฟ้า-การเงิน นำทีม วงการชี้ธุรกิจยังเป็นขาขึ้น โรคระบาดกระทบจำกัด แต่แนะดูราคาเหมาะสมด้วย

EA รับรู้กำลังผลิต 644 MW เต็มปี

“ออมสิน ศิริ” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิปี 63 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อนที่ทำได้ 6,082 ล้านบาท เนื่องจากจะรับรู้รายได้กำลังผลิตไฟฟ้าครบ 664 เมกะวัตต์เต็มปี ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 278 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 386 เมกะวัตต์ 

“ธุรกิจหลักโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แถมปีนี้จะรับรู้กำลังการผลิต 664 เมกะวัตต์เต็มปี ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิเติบโตทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง มีเพียงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบบ้าง เพราะลูกค้าเลื่อนรับการส่งมอบรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป (MPV) เป็นไตรมาส 3/63 จากเดิมช่วง มี.ค.63 แต่ไม่มีนัยต่อการรับรู้รายได้ปีนี้” ออมสิน กล่าว

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 8.9% จากปีก่อน อยู่ที่ประมาณ 6,400 ล้านบาท จากการรับรู้โรงไฟฟ้าทั้งหมดเต็มปี 

ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิ EA ปีนี้ที่ 6,521 ล้านบาท เติบโต 11% สำสถิติใหม่ เนื่องจากจะรับรู้โรงไฟฟ้าพลังงานลมครบ 260 เมกะวัตต์ เต็มปี ส่วนธุรกิจ Bio-PMC จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/63 และธุรกิจ EV Car จะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/63 รวมถึงโรงงานแบตเตอรี่จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/63 ด้วย

SUPER ได้เวลาเก็บเกี่ยวผลการลงทุน

ด้าน “จอมทรัพย์ โลจายะ” ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า ปีนี้รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทจะสร้างสถิติใหม่ เพราะธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยจะรับรู้กำลังการผลิตใหม่ 1,806 เมกะวัตต์ จากปีก่อน 837 เมกะวัตต์ 

“ปี 63 จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลการดำเนินงานที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้ คาดว่าผลประกอบการจะทำสถิติใหม่ได้อย่างแน่นอน เพราะรับรู้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวและโควิด-19 เพราะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่แน่นอน” จอมทรัพย์ กล่าว

บทวิคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาด กำไรสุทธิปี 63 ทำสถิติใหม่ที่ 1,576 ล้านบาท เติบโต 14% จากปีก่อน โดยสิ้นปีจะมีกำลังการผลิตโซล่าร์ฟาร์มรวม 1,806 เมกะวัตต์ คิดตามสัดส่วนถือหุ้นที่ 1,404.56 เมกะวัตต์ จะเพิ่มเพิ่มขึ้น 119% จากปีก่อน อย่างไรก็ตามปี 64 กำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดดเป็น 2,415 ล้านบาท เติบโต 53% เพราะจะรับรู้กำลังการผลิตทั้งหมดเต็มปี

GULF จะกำไรนิวไฮอีก 8 ปีต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กำไรสุทธิ 8 ปีข้างหน้า (ปี 63-70) จะเติบโตทำสถิติใหม่ทุกปี เฉลี่ยปีละ 20% จากการรับรู้กำลังการผลิตในมือที่ทยอยเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) อีกกว่า 5,080 เมกะวัตต์จากปัจจุบันที่ COD ไปแล้ว 2,701 เมกะวัตต์

ขณะที่โรงไฟฟ้าของ GULF ทุกโรงมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มีประสิทธิภาพสูง และอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ยังเหลืออีกมาก ซึ่งสามารถทำอัตรากำไรได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า กำไรปี 63 ของ GULF จะอยู่ที่ 4,680 ล้านบาท เติบโต 33% จากปีก่อน จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้า SPP 4 โรง และโครงการโซลาร์เวียดนาม 2 โรง ปัจจุบันมีกำลังผลิต 2,701 เมกะวัตต์ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 7,781 เมกะวัตต์ภายในปี 70 คาดกำไรใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 63-67) โตเฉลี่ยต่อปี 39% ขณะที่ใน 10 ปีข้างหน้า (ปี 63-72) โตเฉลี่ยต่อปี 19%

ซึ่ง GULF มีศักยภาพในการขยายกำลังการผลิตจาก Potential Projects จำนวนมาก เพราะมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ขณะที่ความเสี่ยงจากโควิด-19 มีจำกัด จากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีสัดส่วนรายได้เพียง 11%

JMART โตตาม บ.ลูก

“อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท (JMART) มั่นใจว่า กำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติใหม่เติบโต 25% จากปีก่อนที่ทำได้ 534 ล้านบาท 

“แผนธุรกิจปีนี้เราไม่ได้ปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด แม้ว่าโควิด-19 จะมีผลกระทบบ้าง แต่แค่ธุรกิจมือถือเท่านั้น แต่ธุรกิจอื่น เช่น ธุรกิจบริหารหนี้ของ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) และ ธุรกิจของ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ยังเติบโตดี ประกอบกับบริษัทมีการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนการเงิน เชื่อมั่นว่าปีนี้จะทำกำไรสูงสุดอีกครั้ง” นายอดิศักดิ์ กล่าว

บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปี 63 ที่ 604 ล้านบาท เติบโต 13% โดยได้รวมผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว แต่กำไรสุทธิปีนี้ยังเป็นสถิติใหม่ ซึ่งได้อานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจในเครือโดยเฉพาะ JMT 

KTC โตน้อยแต่โตนะ

บทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ปีนี้ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง แม้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของรัฐบาลในไตรมาส 2/63 แต่ได้รวมในประมาณการแล้ว 

เช่นเดียวกับ บทวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ คาดกำไรปี 63 ที่ 5,909 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน โดยได้ปรับลดประมาณการลง 1% เพื่อให้สอดคล้องผลกระทบโควิด-19 และการบันทึกบัญชีตารม TFRS9 โดยมองว่าธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง เพราะสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีผู้ติดเชื้อลดลง ซึ่งหามีการปลด Lock Down ได้เร็ว จะทำให้การจับจ่ายฟื้นตัว

ขณะที่ “ระเฑียร ศรีมงคล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC คาดกำไรปี 63 ยังมีโอกาสเติบโตทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง จากการเพิ่มขึ้นของยอดขอสินเชื่อส่วนบุคคลใหม่และยอดการใช้บัตร แม้อาจจะไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 15% จากภาวะเศรษฐกิจและโควิด-19 แต่มั่นใจว่าจะมากกว่าปีก่อน อ่านเพิ่มเติม 5 หุ้นสายเทคโนโลยี ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม : 6 เคล็ดลับ เจรจาธุรกิจให้สำเร็จ